ไปสู่เนื้อหา
  1. Home>
  2. discover-kia>
  3. ASK>
  4. VIN คืออะไร?

VIN คืออะไร?

VIN ย่อมาจาก Vehicle Identification Number หรือ หมายเลขประจำรถยนต์แต่ละคัน ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มตัวเลขและตัวอักษร โดยรถยนต์แต่ละคัน จะมีเลข VIN ประจำตั้งแต่การผลิตขั้นต้น

VIN ย่อมาจาก Vehicle Identification Number หรือ หมายเลขประจำรถยนต์แต่ละคัน ประกอบด้วยกลุ่มตัวเลขและตัวอักษร โดยรถยนต์แต่ละคันจะมีเลข VIN ประจำตั้งแต่การผลิตขั้นต้น ที่ประกอบไปด้วยชุดอักษรและตัวเลข 17 ตัว ไม่มีการเว้นวรรคและไม่มีตัวอักษรที่ก่อให้เกิดความสับสน เช่น  Q/q, I/i และ O/o ในแต่ละ Segment ของ VIN ประกอบด้วยข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับตัวรถ เช่น เวลา สถานที่ และผู้ผลิต

 

คุณสามารถใช้เลข VIN เพื่อตรวจสอบข้อมูล เมื่อคุณต้องการจะซื้อรถมือสอง โดยคุณค้นหาประวัติที่สำคัญของรถยนต์ เช่น ประวัติการชน ข้อบกพร่องประจำโมเดลนั้นๆ ได้อีกด้วย

 

VIN can be used when you want to buy a second-hand car, to obtain information about it. It can also be used to track the history of the particular vehicle i.e. if there was a safety issue or defect related to that model.

สามารถค้นหา VIN ได้จาก

image1
① Vehicle identification number (VIN) คือ ตัวเลขที่ใช้ในการจดทะเบียนรถยนต์ในทุกรูปแบบอย่างถูกกฎหมาย ตัวเลขจะปรากฏบนผนังห้องเครื่องด้านในผู้ขับขี่
image2
② VIN คือ ป้ายที่ติดอยู่ด้านบนของคอนโซลด้านหน้า และตัวเลขบนป้ายมองจากด้านนอกที่กระจกบานหน้าได้อย่างชัดเจน
image3
③ ค้นหาเลข VIN ได้ที่สติกเกอร์รับรองคุณภาพของรถยนต์ บริเวณเสากลางฝั่งผู้ขับขี่

เมื่อต้องถอดโค้ด VIN สามารถทำความเข้าใจเรื่องชุดตัวเลขได้ ดังนี้

 

1. 3 หลักแรก คือ รหัสประจำตัวผู้ผลิตของโลก หรือ World Manufacturer Identifier (WMI) ประกอบด้วย 

  • อักษรหลักที่ 1 คือ สถานที่การผลิต โดยผู้ผลิตแต่ละประเทศ จะถูกระบุเป็นโค้ดตัวอักษรเฉพาะภายใต้ WMI
  • อักษรหลักที่ 2 คือ ยี่ห้อของรถยนต์ และมักจะเป็นตัวอักษรตัวแรกของชื่อแบรนด์รถยนต์
  • อักษรหลักที่ 3 เมื่อดูรวมกับหลักที่ 2 จะบอกถึงประเภทของรถยนต์หรือเซกเมนต์ของการผลิต

 

2. ตัวเลข 6 หลักถัดจาก 3 หลักแรก คือ ตัวบ่งชี้

  • หลักที่ 4 ถึงหลักที่ 8 แสดงถึงโมเดล รุ่น ระบบต่างๆ และชนิดของเครื่องยนต์
  • หลักที่ 9 คือ security digit หรือ หมายเลขตรวจสอบความถูกต้องของ VIN เพื่อป้องกันการปลอมแปลง

 

3. 8 หลักสุดท้าย คือ ตัวระบุ

  • หลักที่ 10 จะอ้างถึงปีของโมเดลรถยนต์
    * B-Y จะแสดงถึงปีโมเดลระหว่างปี 1980 ถึง 2000
    * 1-0 จะแสดงถึงปีโมเดลระหว่างปี 2001 ถึง 2009
    * เริ่มกลับไปใช้เป็นตัว A ในปี 2010 และจะไล่ลำดับตามตัวอักษรไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2030
  • หลักที่ 11 จะแสดงถึงสถานที่ประกอบรถยนต์ โดยโรงงานผลิตแต่ละที่ จะมีโค้ดประจำตัวแตกต่างกัน
  • หลักที่ 12-17 ประกอบด้วยตัวเลขที่รถยนต์แต่ละคันได้ถูกระบุตั้งแต่ขณะทำการผลิต