วิธีการดูแลรักษาภายในของรถยนต์

ส่วนมากผู้ขับขี่มักจะดูแลรักษาภายนอกรถยนต์ให้ดูดีอยู่เสมอ แต่มักละเลยการดูแลภายในอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งการจ่ายเงินค่าทำความสะอาดภายในแต่ละครั้ง มีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น หากคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง คุณก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายในราคาที่สูงขนาดนั้น นอกจากนี้ การรักษาความสะอาดของรถยนต์ทั้งภายในและภายนอก จะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของรถยนต์ และเพิ่มมูลค่าราคาขายต่อให้กับรถคุณได้มากขึ้นอีกด้วย

พรมและผ้ายางปูพื้น ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่สกปรกมากที่สุด ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่สุดในการเริ่มทำความสะอาดภายในรถยนต์ของท่าน และแน่นอนว่า ถ้าเบาะนั่งของคุณกับคอนโซลรถยนต์สกปรก ควรเก็บพรมไว้ทำความสะอาดเป็นสิ่งสุดท้าย เพราะการทำความสะอาดเบาะและคอนโซล จะทำให้เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกตกลงมาอยู่ที่พรมรถนั่นเอง ดังนั้น อย่าลืมนำเศษผงหรือสิ่งสกปรกไปทิ้งหลังทำความสะอาดทุกส่วนแล้ว และอย่าลืมปรับตำแหน่งเบาะเพื่อสำรวจว่า มีเศษฝุ่นหรือขยะในบริเวณอื่นอีกหรือไม่ คุณจะได้ทำความสะอาดทั้งหมดภายในครั้งเดียว

พรม

✔ ดูดฝุ่นที่พรมให้ทั่ว โดยเลือกใช้หัวดูดฝุ่นหลายแบบ เพื่อทำความสะอาดตะเข็บเบาะและทุกช่องว่างระหว่างที่นั่ง

✔ ใช้น้ำฉีดล้างทำความสะอาดพรม ด้วยผลิตภัณฑ์ซักพรมที่คุณเลือกใช้

✔ อย่าฉีดน้ำที่พรมจนเปียกเกินไป เพราะความชื้นอาจนำไปสู่เชื้อราและรอยคราบของราขึ้นมาได้ ถ้าไม่ทำให้พรมเปียกมากจนเกินไป ก็จะทำให้เป่าแห้งได้เร็ว สะอาด และเช็ดน้ำออกได้ง่ายด้วยผ้าซับน้ำ

✔ ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อขจัดคราบฝังลึกได้

✔ ใช้วิธีง่ายๆ ทั่วไปในการกำจัดคราบ เช่น การทำความสะอาดหมากฝรั่งที่ติดพรม ด้วยการนำน้ำแข็งไปประคบบริเวณคราบหมากฝรั่งสักพัก จนกว่าหมากฝรั่งจะแข็งตัว แล้วค่อยดึงหมากฝรั่งนั้นออกจากพรม

พรมปูพื้นหรือผ้ายางปูพื้น

✔ ดึงผ้ายางออกจากรถยนต์ สะบัดเศษดินออก และตรวจดูส่วนที่ติดลึกในร่องผ้ายาง

✔ ใช้ที่ดูดฝุ่นดูดตามบริเวณร่องของพรมจนกว่าจะสะอาด แล้วใช้ที่ฉีดน้ำกำลังแรงสูง เพื่อล้างคราบโคลนที่ติดอยู่ออก หลังจากนั้นเป่าให้แห้ง ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

✔ ถ้าคุณใช้ผงซักฟอกในการซักพรมปูพื้น จะต้องล้างผงซักฟอกออกให้สะอาด เพื่อป้องกันการลื่นและคราบผงซักฟอกที่อาจทำลายสภาพของพรมได้

วิธีการทำความสะอาดเบาะนั่ง จะขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุหุ้มเบาะ แต่ไม่ว่าจะเป็นเบาะหุ้มหนังแท้ ไวนิล หรือเบาะผ้า คุณควรดูดเศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกบนเบาะนั่งให้ได้มากที่สุด ก่อนจะเริ่มการทำความสะอาดเบาะ

เบาะหนัง

✔ ใช้สเปรย์หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหนังฉีดพ่นลงไปในหนัง และเช็ดด้วยผ้า

✔ ผ้าที่ใช้เช็ดเบาะหนัง ควรใช้ผ้าประเภท Microfiber

✔ หลังจากทิ้งให้หนังแห้งแล้ว จึงค่อยทาน้ำยาเคลือบรักษาเบาะหนัง (Leather Conditioner) ลงไป เพื่อเป็นการบำรุงหนังอีกครั้ง

เบาะไวนิล

✔ ส่วนมาก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเบาะทั่วไป จะใช้งานได้กับหนังประเภทนี้ แต่ต้องตรวจสอบฉลากเพื่อความมั่นใจอีกครั้งว่า ผลิตภัณฑ์นั้นใช้กับเบาะไวนิลได้จริง

✔ ใช้สเปรย์หรือน้ำยาทำความสะอาดฉีดพ่นลงไปบนเบาะ และเช็ดให้แห้งด้วยผ้า

เบาะผ้า

✔ ใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบชนิดพิเศษ เพื่อขจัดคราบที่ฝังลึก

✔ หลังทำความสะอาดเสร็จแล้ว คุณอาจใช้สเปรย์ดับกลิ่นที่ใช้ในบ้านมาฉีดพ่น เพื่อทำให้รถมีกลิ่นที่หอมสดชื่นขึ้น

✔ หลีกเลี่ยงการทำให้เบาะเปียก เพราะผ้าจะดูดซึมความชื้นและอาจไม่แห้งสนิท ทำให้มีกลิ่นและก่อให้เกิดเชื้อราได้

✔ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดกลิ่นอับของผ้า นำเบกกิ้งโซดามาถูเบาๆ และทิ้งไว้ที่เบาะผ้าสักระยะ หลังจากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก ซึ่งจะช่วยกำจัดกลิ่นอับบนเบาะผ้าได้

กลางคอนโซลรถ เป็นส่วนที่มองเห็นและใช้งานมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ความเล็กของชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ลูกบิด สวิตช์ ปุ่มปรับอากาศ ก็ยากต่อการทำความสะอาดเช่นกัน การใช้เครื่องมือเข้ามาจัดการ จะทำให้คุณทำความสะอาดภายในรถยนต์ได้ง่ายขึ้น 

เรือนไมล์

✔ ดูดเศษฝุ่นให้ทั่ว ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และพยายามทำความสะอาดเรือนไมล์ให้ทั่วทุกมุม

✔ หาผ้าคลุมมาคลุมเรือนไมล์ เพื่อป้องกันสีซีดและกรอบแตกจากแสงแดด

คอนโซล

✔ ใช้ผ้านิ่มห่อหุ้มบริเวณสกรูไรปากแบน เพื่อเช็ดทำความสะอาดตามร่องคอนโซล โดยเฉพาะยิ่งใช้ผ้าบางเท่าใด ก็จะยิ่งทำความสะอาดได้ทั่วถึงมากขึ้น 

หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คุณอาจใช้สำลีพันรอบมีดพลาสติก เพื่อใช้ทำความสะอาดร่องคอนโซลรถได้ด้วยเช่นกัน 

ช่องแอร์

✔ ช่องแอร์อาจเป็นส่วนที่ทำความสะอาดได้ไม่ยาก แต่ก็เป็นส่วนที่มักถูกละเลยมากที่สุด แนะนำให้ใช้แปรงสีฟันขนอ่อนหรือแปรงขนยาว เพื่อเช็ดเศษฝุ่นออกให้ได้มากที่สุด และเปิดพัดลมแอร์ให้แรง เพื่อเป่าเศษฝุ่นหลังทำความสะอาดเสร็จ

ในรถยนต์หลายรุ่น แผงประตูอาจใช้วัสดุเดียวกับวัสดุภายในส่วนอื่น ดังนั้น คุณสามารถดูข้อแนะนำในการทำความสะอาดจากชิ้นส่วนภายในส่วนอื่น ที่ใช้วัสดุชนิดเดียวกับแผงประตูรถของคุณได้

อย่าละเลยการทำความสะอาดที่รองแก้ว และมือจับของแผงประตู บริเวณนี้ถือเป็นอีกจุดที่มีความสกปรกมากที่สุดในรถยนต์ของคุณ คุณสามารถเริ่มทำความสะอาดได้ด้วยการนำสิ่งของหรือเศษอื่นๆ ที่หยิบได้ด้วยมือออกก่อน หลังจากนั้น ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกขนาดเล็ก และใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ดบริเวณที่รองแก้วตามลำดับ

กลิ่นที่ติดอยู่ในรถนาน เป็นสิ่งที่ยากต่อการกำจัด ก่อนที่คุณจะออกไปซื้ออุปกรณ์ขจัดกลิ่น ลองตรวจสอบดูก่อนว่า สาเหตุของกลิ่นมีที่มาจากสิ่งใด

สำหรับผู้สูบบุหรี่หรือให้สัตว์เลี้ยงขึ้นรถเป็นประจำ การทำให้รถยนต์ไร้กลิ่นติดรถ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก คุณอาจติดที่ดับกลิ่นไว้บริเวณกระจกมองหลัง หรือคุณอาจนำถ่านใส่กล่องพลาสติกไว้ ปิดฝากล่องแบบไม่ต้องสนิท เพื่อให้ลมเข้ากล่อง และแอบวางไว้ใต้เบาะนั่งในรถยนต์ ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ดีมากในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่อยู่ภายในรถยนต์ของคุณ